เพิ่มคุณค่าของข้อมูลการวัด 3 มิติของคุณ

การปรับใช้เครื่องมือและกระบวนการดิจิทัลที่เหมาะสมจะช่วยให้ผู้ผลิตนำข้อมูลการวัด 3 มิติไปใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น

การจัดการข้อมูลและการเชื่อมต่อระบบดิจิทัล

เพิ่มคุณค่าของข้อมูลการวัด 3 มิติของคุณ
 

 

การจัดการข้อมูลและการเชื่อมต่อระบบดิจิทัล

เพิ่มคุณค่าของข้อมูลการวัด 3 มิติของคุณ

 

การปรับใช้เครื่องมือและกระบวนการดิจิทัลที่เหมาะสมจะช่วยให้ผู้ผลิตนำข้อมูลการวัด 3 มิติไปใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น


นวัตกรรมสำคัญในฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์การวัด 3 มิติ ตลอด 20 ปีที่ผ่านมาได้ขับเคลื่อนการเติบโตของเทคโนโลยีเหล่านี้อย่างมาก ในแวดวงการผลิต ในขั้นตอนการออกแบบผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยีเหล่านี้ลดจำนวนตัวต้นแบบและการทำงานซ้ำๆ ที่จำเป็น ต่อการสร้างเครื่องมือการผลิตที่ทำงานได้จริง รวมทั้งช่วยปรับปรุงผลิตภัณฑ์อย่างละเอียด และเร่งกระบวนการประกอบให้รวดเร็วยิ่งขึ้นในขั้นตอนก่อนการผลิต ในส่วนการผลิต เทคโนโลยีเหล่านี้ทำให้การตรวจจับ วิเคราะห์ และแก้ไขปัญหาการผลิตเป็นไปได้ ซึ่งคุณประโยชน์เหล่านี้ไม่ใช่เรื่องเล็กเลย

เมื่อดูจากคุณประโยชน์มหาศาลที่การวัด 3 มิติ มอบให้แก่กระบวนการออกแบบและการผลิต คุณอาจแปลกใจที่ได้รู้ว่ากระบวนการวัด 3 มิติ ไม่ได้พัฒนาขึ้นเท่าใดนักในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา โดยยังต้องอาศัยการแลกเปลี่ยนไฟล์และโฟลเดอร์ด้วยตัวเอง พูดกันตามตรงก็คือ การแบ่งปันรายงานและโปรเจ็กต์การตรวจวัดต้องดำเนินการด้วยตัวเอง โดยการคัดลอกไฟล์ลงในไดรฟ์เครือข่าย หรือแชร์ด้วย USB แฟลชไดรฟ์ แม้แต่ตอนใช้ฐานข้อมูลเพื่อทำให้การแชร์ง่ายขึ้น ไฟล์ที่มีขนาดใหญ่มากก็ยังต้องอัปโหลดขึ้นระบบ ทำให้การโอนข้อมูลล่าช้า และการโอนข้อมูลได้ช้าทำให้การผลิตช้าไปด้วย

ฝ่ายงานด้านการผลิตหลายๆ ฝ่ายต้องใช้ข้อมูลการวัด 3 มิติ อยู่เป็นประจำ แต่บ่อยครั้งที่การรับข้อมูลเหล่านี้ขาดประสิทธิภาพอย่างยิ่ง แม้ว่าวิธีการเดิมๆ จะยังทำงานได้ แต่ปัจจุบันเรามีตัวเลือกอื่นที่ดีกว่า เทคโนโลยีดิจิทัลจะช่วยบรรเทาปัญหานี้ และเพิ่มคุณค่าให้กับข้อมูลการวัด 3 มิติ ได้หรือไม่ ตอบคำเดียวเลยว่า ได้

3 ขั้นตอนเพื่อเพิ่มคุณค่าให้กับข้อมูลการวัด 3 มิติ อย่างมหาศาล

 

ขั้นตอนแรกคือตั้งค่าระบบการจัดการข้อมูลทั่วองค์กรสำหรับข้อมูลการวัด 3 มิติ ทำไมถึงจำเป็นน่ะหรือ เพราะปัญหาพื้นฐานข้อแรกที่ต้องแก้ไขคือการเข้าถึงข้อมูล ระบบการจัดการข้อมูลที่เหมาะสม จะขจัดอุปสรรคและเพิ่มความเร็วให้แก่การผลิตโดยรวม

และตอนนี้แน่นอนว่ามีอุปสรรคอยู่แล้ว พนักงานใช้เวลาเฉลี่ย 1.8 ชั่วโมงในแต่ละวัน หรือ 9.3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ในการค้นหาและรวบรวมข้อมูล อ้างอิงจากรายงาน McKinsey ฉบับหนึ่ง ในขอบเขตของงานคุณภาพ InnovMetric สำรวจความเห็นจากผู้ปฏิบัติงานด้านการควบคุมคุณภาพ และพบว่าพวกเขาใช้เวลาโดยเฉลี่ยมากกว่าสามชั่วโมงทุกสัปดาห์ ในการค้นหา จัดทำไฟล์ และแชร์ไฟล์โปรเจ็กต์การตรวจวัดกับเพื่อนร่วมงาน การแชร์โปรเจ็กต์เป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งในขั้นตอนการทำงาน และในกระบวนการผลิตที่มีปริมาณสูง โดยทั่วไปนั้น มีโปรเจ็กต์การตรวจวัดนับร้อยที่จำเป็นต้องจัดการ และแชร์ในแต่ละสัปดาห์

ระบบการจัดการข้อมูลทำให้ข้อมูลการวัด 3 มิติ เข้าถึงได้ไม่ต่างจากกล่องขาเข้าของอีเมล โดย:

  • ทำให้การจัดการไฟล์เป็นขั้นตอนอัตโนมัติ 

  • รับรองความปลอดภัยและความสมบูรณ์ของข้อมูล โดยการจัดเก็บข้อมูลแบบรวมศูนย์ และใช้กลยุทธ์การสำรองข้อมูลที่น่าเชื่อถือ

  • มีเครื่องมือการค้นหาที่ทำให้ค้นหาโปรเจ็กต์การวัด 3 มิติ ได้ง่าย โดยการพิมพ์คำสำคัญแทนที่การเรียกดูไฟล์

  • จัดการสิทธิ์อนุญาตเพื่อควบคุมผู้ที่มีสิทธิ์เข้าถึง และสิ่งที่ทำได้กับข้อมูล

เพื่อให้เข้าถึงข้อมูลได้มากขึ้น ระบบการจัดการข้อมูลมากมายยังเสนอบริการเข้าถึงข้อมูล ผ่านเว็บเบราว์เซอร์ และแอปมือถือด้วย ลองนึกถึงการเปิดโปรเจ็กต์การวัด 3 มิติ บนแพลตฟอร์มไหนก็ได้จากทุกที่ดูสิ! ในที่สุด ความสะดวกสบายของเทคโนโลยีผู้บริโภค ก็นำมาใช้กับการวัด 3 มิติ เสียที เมื่อมีเทคโนโลยีนี้ การผนวกการสื่อสารผ่านช่องทางดิจิทัล ไว้ในกระบวนการผลิตยังจะเป็นไปได้อีกด้วย เช่น ทุกคนในองค์กรจะสามารถแชร์ข้อมูลการวัด 3 มิติ ได้อย่างง่ายดายผ่านทางอีเมลหรือแชท ช่วยให้ผู้รับตรวจสอบข้อมูลในเว็บเบราว์เซอร์ได้ด้วยคลิกเดียว

และเมื่อแชร์ข้อมูลการวัด 3 มิติ และการสื่อสารได้ง่ายขึ้นผ่านเครื่องมือดิจิทัล ระบบการจัดการข้อมูล จะช่วยยกระดับการออกแบบผลิตภัณฑ์ ขั้นตอนก่อนการผลิต และการผลิต เนื่องจากสิ่งเหล่านี้จะทำให้:

  • สามารถทำซ้ำได้รวดเร็วขึ้น และอาจน้อยลงเมื่อแก้ไขปัญหาการผลิต

  • การประสานงานข้ามแผนกมีประสิทธิภาพมากขึ้น

  • การประสานงานกับซัพพลายเออร์ภายนอกทำได้ง่ายขึ้น

  • การปฏิสัมพันธ์เป็นแบบเรียลไทม์

 

ขั้นตอนที่สองคือ การปรับใช้กลยุทธ์การจัดการข้อมูลเมต้า ข้อมูลเมต้าคือข้อมูลกระบวนการหลักเกี่ยวกับชิ้นส่วนต่างๆ ซึ่งอธิบายบริบทการออกแบบ (หมายเลขชิ้นส่วน, หมายเลขแบบร่าง เป็นต้น), ระบุคุณลักษณะวิธีการขึ้นรูปชิ้นส่วน (หมายเลขซีเรียล, หมายเลขสายการผลิต เป็นต้น) และอธิบายวิธีการวัดชิ้นงาน (ชื่อผู้ปฏิบัติงาน, ID อุปกรณ์ เป็นต้น) ผู้ผลิตควรระบุข้อมูลที่ต้องการจัดเก็บเป็นข้อมูลเมต้าในระบบการจัดการข้อมูล และควบคุมคุณภาพของข้อมูลนั้น

ข้อมูลเมตาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าถึงข้อมูลการวัด 3 มิติ:

  • แทนที่ต้องใช้เวลา 5-15 นาทีในการค้นหาโปรเจ็กต์การตรวจวัด โปรเจ็กต์จะแสดงขึ้นมาหลังจากค้นหาเพียง 15 ถึง 30 วินาที แค่ป้อนรายละเอียดเพียงหนึ่งหรือสองอย่าง เกี่ยวกับโปรเจ็กต์ เช่น หมายเลขซีเรียลและหมายเลขชิ้นงาน ผู้ใช้ก็จะค้นหาข้อมูลที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วตั้งแต่ครั้งแรก

  • ข้อมูลเมต้าจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการวิเคราะห์ต้นเหตุ เพื่อระบุและแก้ไขปัญหาการผลิต เช่น การเปรียบเทียบคุณภาพชิ้นส่วนที่ผลิตโดยซัพพลายเออร์สองราย ซึ่งจะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อชิ้นงานที่วัดเชื่อมโยงไว้ กับซัพพลายเออร์รายที่ถูกต้อง

 

ขั้นตอนที่สามคือ การเปิดการเข้าถึง ให้กับผู้ใช้ทุกคน ในระบบการบริหารจัดการวงจรของผลิตภัณฑ์ (PLM) ระบบ PLM จัดการวงจรการผลิตของผลิตภัณฑ์ทั้งหมด โดยผสานรวมข้อมูล กระบวนการ ระบบ และผู้คนเข้าด้วยกัน รวมทั้งมอบโครงสร้างพื้นฐานสำหรับข้อมูลผลิตภัณฑ์ เมื่อมีระบบการจัดการข้อมูลที่กำหนด URL แบบเสถียร ซึ่งก็คือที่อยู่สำหรับไปยังแหล่งต่างๆ ผ่านทางเว็บ -- คุณจะสามารถแทรกไฮเปอร์ลิงก์ลงในรายการ PLM ของชิ้นงานเดียวหรือชุดประกอบต่างๆ เพื่ออนุญาตให้ผู้ใช้ PLM ตรวจสอบข้อมูลและผลการวัด 3 มิติ ในเว็บเบราว์เซอร์ด้วยการคลิกครั้งเดียว

การผนวกรวมข้อมูลการวัด 3 มิติ เข้ากับกระบวนการ PLM แบบดิจิทัล จะเร่งความเร็วให้การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และเป็นการเพิ่มคุณภาพแบบเชิงรุก เช่น วิศวกรการผลิตสามารถใช้ข้อมูลการวัด 3 มิติ มาแก้ไขปัญหาการออกแบบและการผลิต และตรวจสอบว่าการแก้ไขประสบความสำเร็จหรือไม่ และจดบันทึกสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงทางวิศวกรรมได้ นอกจากนี้ ยังเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการอนุมัติที่ใช้ PLM ที่มีอยู่เดิมได้ด้วย โดยการเชื่อมโยงไฟล์ CAD ฉบับแก้ไขเข้ากับข้อมูลการวัด 3 มิติ ที่เกี่ยวข้อง สุดท้าย ข้อมูลการวัด 3 มิติอาจให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่นักออกแบบ สำหรับการวิเคราะห์กระบวนการผลิตในปัจจุบัน เพื่อปรับปรุงงานออกแบบในอนาคตได้

ทำไมจึงควรเปลี่ยนไปใช้ระบบดิจิทัลโดยเริ่มจากกระบวนการวัด 3 มิติ

การปรับใช้ระบบการจัดการข้อมูล กลยุทธ์ข้อมูลเมต้าแบบกำหนดเอง และการเชื่อมต่อกับระบบ PLM ผ่านระบบดิจิทัล ทำให้ข้อมูลการวัด 3 มิติ กลายมาเป็นหัวใจของกระบวนการทางวิศวกรรมและการผลิตของผู้ผลิต และนี่คือเหตุผลสำคัญ 4 ประการ ที่องค์กรผู้ผลิตควรพิจารณาให้กระบวนการวัด 3 มิติ เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับเส้นทางการเปลี่ยนไปใช้ระบบดิจิทัล:

 

Build an initial success

สร้างความสำเร็จขั้นต้น

  • สามัญสำนึกบอกว่า องค์กรควรให้ความสำคัญกับโปรเจ็กต์ที่มีมูลค่าไม่มาก และให้ผลตอบแทนจากการลงทุนได้อย่างรวดเร็วก่อน ผลไม้ที่ใกล้สุกย่อมขายง่ายกว่าอยู่แล้ว เมื่อปรับใช้ระบบการจัดการข้อมูลการวัด 3 มิติ เช่นPolyWorks|DataLoop™ จาก InnovMetric องค์กรจะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนคืนภายในไม่กี่สัปดาห์ผ่านประสิทธิภาพการผลิตที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ การเริ่มต้นจากโปรเจ็กต์ง่ายๆ ที่มอบประโยชน์ที่จับต้องได้ และให้ผลตอบแทนจากการลงทุนได้อย่างยอดเยี่ยม เป็นวิธีที่เร็วที่สุดในการผลักดันให้พนักงาน สนับสนุนการเปลี่ยนไปใช้ระบบดิจิทัลได้สำเร็จ
Minimize business risks

ลดความเสี่ยงทางธุรกิจ

  • องค์กรสามารถทำตาม 3 ขั้นตอน ในการเปลี่ยนมาใช้ระบบดิจิทัลเราที่นำเสนออย่างค่อยเป็นค่อยได้ โดยแบ่งการดำเนินการออกเป็นหลายระยะ เพราะแต่ละระยะเป็นอิสระจากกัน ทั้งนี้ เพื่อลดการหยุดชะงักในการทำงาน และมีเวลาให้ทีมงานได้สร้างทักษะดิจิทัลใหม่ๆ ได้อย่างเหลือเฟือ
Create a structuring framework

สร้างกรอบงานที่มีโครงสร้าง

  • URL แบบเสถียรที่ได้มาจากระบบการจัดการข้อมูล ช่วยในการสื่อสารเนื้อหาแบบครบครันผ่านระบบดิจิทัล เนื่องจากทีมจะสามารถฝังข้อมูลการวัด 3 มิติ ไว้กับข้อความเพื่อประสานงานกับเพื่อนร่วมงานได้
  • การเข้าถึงผ่านเว็บเบราว์เซอร์ อุปกรณ์มือถือ และ PLM โซลูชันนี้ ยังช่วยรับรองด้วยว่าทุกคนในองค์กรจะมีข้อมูลการวัด 3 มิติ พร้อมใช้เสมอไม่ว่าจะอยู่ในแผนกใด
Increase data quality

เพิ่มคุณภาพข้อมูล

  • ความพร้อมใช้งานของผลการวัดแบบ 3 มิติ แทนการใช้รายงาน 2 มิติ แบบเดิมๆ ทำให้สามารถตรวจสอบข้อมูลรายละเอียดในโปรเจ็กต์การตรวจวัด 3 มิติ ที่มีข้อมูลมากมายได้ ซึ่งจะช่วยให้วิเคราะห์ปัญหาเชิงมิติได้จากหลากหลายมุมมอง
  • ความพร้อมใช้งานของดิจิทัลทวิน สำหรับชิ้นงานที่สแกน ยังช่วยให้สามารถทำการวัดเพิ่มเติมบนชิ้นงานเดียว หรือหลายชิ้นงาน เพื่อวิเคราะห์พื้นที่ที่มีปัญหาในเชิงลึกมากขึ้น
  • การใช้ระบบการจัดการข้อมูลจะรับรองว่า ข้อมูลที่ใช้จะเป็นโปรเจ็กต์ฉบับปรับปรุงล่าสุดเสมอ
Build an initial success

สร้างความสำเร็จขั้นต้น

  • สามัญสำนึกบอกว่า องค์กรควรให้ความสำคัญกับโปรเจ็กต์ที่มีมูลค่าไม่มาก และให้ผลตอบแทนจากการลงทุนได้อย่างรวดเร็วก่อน ผลไม้ที่ใกล้สุกย่อมขายง่ายกว่าอยู่แล้ว เมื่อปรับใช้ระบบการจัดการข้อมูลการวัด 3 มิติ เช่นPolyWorks|DataLoop™ จาก InnovMetric องค์กรจะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนคืนภายในไม่กี่สัปดาห์ผ่านประสิทธิภาพการผลิตที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ การเริ่มต้นจากโปรเจ็กต์ง่ายๆ ที่มอบประโยชน์ที่จับต้องได้ และให้ผลตอบแทนจากการลงทุนได้อย่างยอดเยี่ยม เป็นวิธีที่เร็วที่สุดในการผลักดันให้พนักงาน สนับสนุนการเปลี่ยนไปใช้ระบบดิจิทัลได้สำเร็จ

 

Minimize business risks

ลดความเสี่ยงทางธุรกิจ

  • องค์กรสามารถทำตาม 3 ขั้นตอน ในการเปลี่ยนมาใช้ระบบดิจิทัลเราที่นำเสนออย่างค่อยเป็นค่อยได้ โดยแบ่งการดำเนินการออกเป็นหลายระยะ เพราะแต่ละระยะเป็นอิสระจากกัน ทั้งนี้ เพื่อลดการหยุดชะงักในการทำงาน และมีเวลาให้ทีมงานได้สร้างทักษะดิจิทัลใหม่ๆ ได้อย่างเหลือเฟือ

 

Create a structuring framework

สร้างกรอบงานที่มีโครงสร้าง

  • URL แบบเสถียรที่ได้มาจากระบบการจัดการข้อมูล ช่วยในการสื่อสารเนื้อหาแบบครบครันผ่านระบบดิจิทัล เนื่องจากทีมจะสามารถฝังข้อมูลการวัด 3 มิติ ไว้กับข้อความเพื่อประสานงานกับเพื่อนร่วมงานได้
  • การเข้าถึงผ่านเว็บเบราว์เซอร์ อุปกรณ์มือถือ และ PLM โซลูชันนี้ ยังช่วยรับรองด้วยว่าทุกคนในองค์กรจะมีข้อมูลการวัด 3 มิติ พร้อมใช้เสมอไม่ว่าจะอยู่ในแผนกใด

 

Increase data quality

เพิ่มคุณภาพข้อมูล

  • ความพร้อมใช้งานของผลการวัดแบบ 3 มิติ แทนการใช้รายงาน 2 มิติ แบบเดิมๆ ทำให้สามารถตรวจสอบข้อมูลรายละเอียดในโปรเจ็กต์การตรวจวัด 3 มิติ ที่มีข้อมูลมากมายได้ ซึ่งจะช่วยให้วิเคราะห์ปัญหาเชิงมิติได้จากหลากหลายมุมมอง
  • ความพร้อมใช้งานของดิจิทัลทวิน สำหรับชิ้นงานที่สแกน ยังช่วยให้สามารถทำการวัดเพิ่มเติมบนชิ้นงานเดียว หรือหลายชิ้นงาน เพื่อวิเคราะห์พื้นที่ที่มีปัญหาในเชิงลึกมากขึ้น
  • การใช้ระบบการจัดการข้อมูลจะรับรองว่า ข้อมูลที่ใช้จะเป็นโปรเจ็กต์ฉบับปรับปรุงล่าสุดเสมอ

โซลูชันที่มีอยู่แล้ว

โซลูชันพร้อมใช้ที่น่าเชื่อถือ และพิสูจน์แล้วที่มอบกระบวนการวัด 3 มิติ แบบดิจิทัลมีอยู่จริง ด้วยระบบการจัดการข้อมูลสมัยใหม่สำหรับข้อมูลการวัด 3 มิติ ที่ช่วยจัดเก็บข้อมูลการวัด 3 มิติ แบบรวมศูนย์ และทำให้เข้าถึงข้อมูลอย่างง่ายดาย ระบบนิเวศดิจิทัล PolyWorks® จะเพิ่มคุณค่าให้กับข้อมูลการวัด 3 มิติ ขององค์กรผู้ผลิตได้อย่างมหาศาล

การแชร์ข้อมูลอย่างราบรื่นเป็นสิ่งที่ทุกองค์กรต้องการ ผู้ผลิตต่างก็ต้องการข้อมูลการวัด 3 มิติ และต้องการโดยเร็วที่สุดเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ซึ่งคุณค่าของข้อมูลการวัด 3 มิติ จะเพิ่มขึ้นตามความเร็วที่ข้อมูลมาถึง!

เลือกตำแหน่งที่ตั้งและภาษาของคุณ

เลือกตำแหน่งของคุณ

Afghanistan

Åland Islands

Albania

Algeria

อเมริกันซามัว

Andorra

Angola

Anguilla

Antarctica

Antigua and Barbuda

Argentina

Armenia

Aruba

Australia

Austria

Azerbaijan

Bahamas

Bahrain

Bangladesh

Barbados

Belarus

Belgium

Belize

Benin

Bermuda

Bhutan

Bolivia, Plurinational State of

Bonaire, Sint Eustatius and Saba

Bosnia and Herzegovina

Botswana

Bouvet Island

Brazil

British Indian Ocean Territory

Brunei Darussalam

Bulgaria

Burkina Faso

Burundi

Cambodia

Cameroon

Canada

Cape Verde

Cayman Islands

Central African Republic

Chad

Chile

China

Christmas Island

Cocos (Keeling) Islands

Colombia

Comoros

Congo

Congo, The Democratic Republic of the

Cook Islands

Costa Rica

Côte d'Ivoire

Croatia

Cuba

Curaçao

Cyprus

Czech Republic

Denmark

Djibouti

Dominica

Dominican Republic

Ecuador

Egypt

El Salvador

Equatorial Guinea

Eritrea

Estonia

Ethiopia

Falkland Islands (Malvinas)

Faroe Islands

Fiji

Finland

France

French Guiana

French Polynesia

French Southern Territories

Gabon

Gambia

จอร์เจีย

Germany

Ghana

Gibraltar

Greece

Greenland

Grenada

Guadeloupe

กวม

Guatemala

Guernsey

Guinea

Guinea-Bissau

Guyana

Haiti

Heard Island and McDonald Islands

Holy See (Vatican City State)

Honduras

Hong Kong

Hungary

Iceland

India

Indonesia

Iran, Islamic Republic of

Iraq

Ireland

Isle of Man

Israel

Italy

Jamaica

Japan

Jersey

Jordan

Kazakhstan

Kenya

Kiribati

Korea, Democratic People's Republic of

Korea, Republic of

Kuwait

Kyrgyzstan

Lao People's Democratic Republic

Latvia

Lebanon

Lesotho

Liberia

Libya

Liechtenstein

Lithuania

Luxembourg

Macao

Macedonia, The Former Yugoslav Republic of

Madagascar

Malawi

Malaysia

Maldives

Mali

Malta

หมู่เกาะมาร์แชลล์

Martinique

Mauritania

Mauritius

Mayotte

Mexico

Micronesia, Federated States of

Moldova, Republic of

Monaco

Mongolia

Montenegro

Montserrat

Morocco

Mozambique

Myanmar

Namibia

Nauru

Nepal

Netherlands

Netherlands Antilles

New Caledonia

New Zealand

Nicaragua

Niger

Nigeria

Niue

Norfolk Island

หมู่เกาะนอร์เทิร์นมาเรียนา

Norway

Oman

Pakistan

ปาเลา

Palestine, State of

Panama

Papua New Guinea

Paraguay

Peru

Philippines

Pitcairn

Poland

Portugal

เปอร์โตริโก

Qatar

Réunion

Romania

Russian Federation

Rwanda

Saint Barthélemy

Saint Helena, Ascension and Tristan da Cunha

Saint Kitts and Nevis

Saint Lucia

Saint Martin (French part)

Saint Pierre and Miquelon

Saint Vincent and the Grenadines

Samoa

San Marino

São Tomé and Príncipe

Saudi Arabia

Senegal

Serbia

Seychelles

Sierra Leone

Singapore

Sint Maarten (Dutch part)

Slovakia

Slovenia

Solomon Islands

Somalia

South Africa

South Georgia and the South Sandwich Islands

South Sudan

Spain

Sri Lanka

Sudan

Suriname

Svalbard and Jan Mayen

Swaziland

Sweden

Switzerland

Syrian Arab Republic

Taiwan, Province of China

Tajikistan

Tanzania, United Republic of

ไทย

Timor-Leste

Togo

Tokelau

Tonga

Trinidad and Tobago

Tunisia

Türkiye

Turkmenistan

Turks and Caicos Islands

Tuvalu

Uganda

Ukraine

United Arab Emirates

United Kingdom

United States

United States Minor Outlying Islands

Uruguay

Uzbekistan

Vanuatu

Venezuela, Bolivarian Republic of

Viet Nam

Virgin Islands, British

Virgin Islands, U.S.

Wallis and Futuna

Western Sahara

Yemen

Zambia

Zimbabwe

เลือกภาษาของคุณ

ยืนยัน